สังคมที่ไร้ปัญญา,

“สังคมไทยเป็นสังคมที่ไร้ปัญญา” “เด็กไทยส่วนมากเป็นเด็กที่คิดไม่เป็น” นี่เป็นคำพูดที่เราอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆ จากนักวิชาการของไทยเอง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็คงเป็นเพราะว่าผู้คนในสังคมเราไม่ค่อยจะใช้เหตุผลในการคิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆหรือเรื่องราวต่างๆที่ตนเองสัมผัสอยู่  เรามักจะคิดตามคนอื่น เชื่อตามคนอื่น โดยเฉพาะตามสื่อต่างๆที่เสนอข่าวกรอกหูเราอยู่ทุกวี่วัน  จนดูเหมือนกับว่าเราเป็นเด็กอมมือที่ไร้ความคิดเป็นของตนเอง  คือเราขาดหลักในการคิด ขาดการเรียนรู้ ขาดประสบการณ์ และขาดผู้นำที่มีสติปัญญาที่แท้จริง  นี่คือต้นของปัญหานี้ และปัญหานี้ก็ได้ส่งผลไปสู่เด็กของเราทำให้เด็กของเราเป็นคนที่ไร้ปัญญาตามไปด้วย จึงทำให้ถูกมองว่าเด็กไทยคิดไม่เป็น เอาแต่เดินตามคนอื่น ตามแฟชั่น ตามค่านิยมของสังคมตะวันตก ตามการโฆษณาโดยเฉพาะจากโทรทัศน์ เหมือนกับสัตว์ที่ไม่มีปัญญาถูกล่ามโซ่ให้เดินตามเจ้าของ

ปัญญาคืออะไร?  ปัญญาหมายถึงความรอบรู้ในสิ่งที่ควรจะรู้  และควรรู้เท่าที่ควรจะรู้ ไม่ใช่ว่าจะต้องรู้ไปเสียหมดทุกเรื่องซึ่งเป็นไปไม่ได้  ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่มีสาระ ก็ไม่สมควรจะไปรู้  เช่นเรื่องดารานักร้องคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ หรือเรื่องหนัง เรื่องละคร เรื่องเพลง เรื่องเกมส์  หรือเรื่องแฟชั่น เรื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น  ซึ่งมีมากมายและล้วนเป็นเรื่องที่ไร้คุณค่าอย่างที่สุด ถึงจะได้รู้มากไปก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นมาเลยแม้สักน้อยนิด ซ้ำยิ่งรู้ก็ยิ่งอาจทำให้เราจิตใจเร้าร้อนไปด้วยความยินดี-ยินร้ายเข้าไปด้วยอีก นี่ยังไม่รวมความโง่ที่เรามัวมาหลงอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แทนที่จะเอาเวลาไปศึกษาสิ่งที่มีสาระที่เรามักไม่ค่อยจะสนใจกัน

อะไรคือเรื่องที่ควรจะรู้?  ซึ่งก็มีมากมายเช่นเรื่องอาชีพการงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เราสามารถนำมาปฏิบัติเลี้ยงชีวิตให้เป็นสุขได้ หรือเรื่องกฎหมายที่สำคัญๆที่ควรรู้ ซึ่งจะทำให้เราไม่ถูกคนอื่นมาหลวงลวงได้ หรือเรื่องการป้องกันซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์สิ่งของเครื่องใช้ เครื่องไม้เครื่องมือที่เราต้องมี ต้องใช้กันอยู่ทุกวี่วัน ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องเสียเงินไปจ้างคนอื่นมาซ่อมหรือต้องไปซื้อหามาใหม่  หรือเรื่องความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัวเราซึ่งจะทำให้เราปฏิบัติต่อธรรมชาติเหล่านั้นได้ถูกต้อง  หรือเรื่องการบ้านการเมือง ซึ่งจะทำให้เรารู้จักเลือกคนดีเข้าไปปกครองบ้านเมือง หรือเรื่องจิตวิทยาที่จะทำให้เรารู้จักจิตใจของผู้คนและปฏิบัติต่อผู้คนได้ถูกต้อง หรือเรื่องสุขภาพอนามัยที่จะทำให้เรารู้จักดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอๆได้ หรือเรื่องการทำสมาธิที่จะช่วยให้จิตสงบได้เมื่อต้องประสบกับความฟุ้งซ่านวุ่นวายต่างๆ หรือเรื่องหลักในการกำจัดความทุกข์ของจิตใจให้ลดลงหรือหมดสิ้นไปได้อย่างถาวร เป็นต้น

สังคมที่ไร้ปัญญาย่อมที่จะพบกับปัญหาและความทุกข์ความเดือดร้อนอย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว เพราะเมื่อไร้ความรอบรู้ที่ถูกต้อง การปฏิบัติต่างๆก็ย่อมที่จะมีความผิดพลาดหรือบังเกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ไม่ช้าก็เร็ว อย่างเช่นเด็กวันรุ่นหญิงถูกล่อลวงทางอินเตอร์เน็ตเพราะโง่เขลาไม่รู้ว่าตนเองกำลังตกเป็นเหยื่อจากคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก  หรือเด็กที่ติดเกมส์จนเสียเงิน เสียเวลา เสียสุขภาพ เสียสติปัญญา แล้วก็เสียอนาคต หรืออนาคตไม่รุ่งเรืองอย่างที่ควรจะเป็น หรือเรื่องสิ่งเสพติด เรื่องอาชญากรรม ปัญหาวันรุ่นยกพวกตีกัน เป็นต้น อย่างที่สังคมของเรากำลังประสบกันอยู่ในปัจจุบัน

แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้กันอย่างไร?  เรื่องนี้เป็นเรื่องยากอย่างที่สุด เพราะคนโง่มักไม่คิดว่าตนเองโง่ คือคนโง่มักจะคิดว่าตนเองรู้แล้ว จึงไม่พยายามแสวงหาความรู้ หรือเพราะคิดว่าถึงรู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร  สู้ไปรู้เรื่องที่ทำให้สนุกสนานจะดีกว่า ถึงแม้จะไร้สาระก็ตาม  นี่เองที่ทำให้รายการดีๆมีสาระของโทรทัศน์บ้านเราไม่ค่อยจะมี  ถึงจะมีก็มีแต่เกมส์โชว์หรือละครน้ำเน่า หรือเรื่องคุยกับดารานักร้องที่มีอยู่จะแทบตลอดเวลาที่มีคนดูมากๆ   

จุดแรกมันต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน คือพยายามแสวงหาความรู้ใส่ตัวให้มากและสม่ำเสมอรวมทั้งต้องอบรมสั่งสอนลุกหลานเราให้ทำตาม  และยังต้องพยายามหลีกหนีสิ่งที่จะทำให้โง่เขลาลงทุกวันด้วย   ซึ่งก็ต้องอาศัยทั้งความอดและเสียสละเป็นอย่างมากจึงจะทำได้  สังคมของเราจึงจะเปลี่ยนมาเป็นสังคมของผู้มีปัญญากันบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าสังคมของคนมีปัญญาย่อมเป็นสังคมที่สงบสุขและมั่นคง

เตชปญฺโญ ภิกขุ 
อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี


>
(ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)


*********************