นักเรียนนักเลง

ข่าวเรื่องนักเรียนเทคนิคยกพวกตีกัน หรือใช้อาวุธทำร้ายนักเรียนต่างสถาบันที่ไม่ถูกกันโดยไม่เลือกหน้านั้นมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ แม้ทางราชการจะพยายามปราบปรามก็ไม่สามารถทำให้ปัญหานี้ยุติลงได้  ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในหลายๆปัญหาของสังคมไทยปัจจุบันที่ยังไม่สามารถทำให้หมดสิ้นไปได้

ปัญหานี้หรือแม้ปัญหาสังคมอื่นๆนั้น ถ้าเราจะมาแก้ปัญหา เราต้องมองหาต้นตอของปัญหาให้ได้เสียก่อน แล้วมาแก้ที่ต้นตอของมัน ปัญหานั้นจึงจะหมดสิ้นไปได้จริง ถ้าเรามาแก้ที่ปลายเหตุมันก็ไม่ได้ผล อย่างที่เรากำลังทำกันอยู่

เด็กที่เกิดมาใหม่ๆนั้นเราจะเห็นว่าน่ารัก บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่มีกิเลสอย่างคนที่โตแล้ว แต่พอโตขึ้นความบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั้นก็หายไป เปลี่ยนมาเป็นคนทีมีกิเลสและสร้างปัญหาให้แก่สังคม แล้วอะไรที่มาทำให้ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั้นหายไป

เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดีก็มักจะเป็นคนมีนิสัยดี ส่วนเด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีก็มักจะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ดี  ซึ่งนี่แสดงว่าสภาพแวดล้อมนั้นมีอิทธิพลต่ออุปนิสัยของคนเราเป็นอย่างยิ่ง

แล้วปัจจุบันภาพแวดล้อมของสังคมเราโดยรวมเป็นอย่างไร? ก็คงไม่ต้องบอก เพราะผลมันปรากฏชัดอยู่แล้วว่าเด็กวัยรุ่นที่สร้างปัญหามีอยู่มาก ไม่ว่าจะปัญหานักเรียนตีกัน ปัญหาวัยรุ่นขับรถซิ่ง ปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็กติดเกมส์ ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และปัญหาการทำแท้ง ปัญหาเด็กนักเรียนมีคุณภาพต่ำ เป็นต้น

อะไรคือสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี? ในปัจจุบันสื่อต่างๆล้วนมีอิทธิพลต่อเด็กอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ หนังสือวาสารต่างๆ วิทยุ โทรทัศน์  อินเตอร์เน็ต และแม้โทรศัพท์มือถือที่วัยรุ่นนิยมกัน ซึ่งสิ่งที่แสดงออกมาทางสื่อต่างๆเหล่านี้นั่นเองที่เป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี

อย่างเช่นการแสดงภาพโป๊ เปลือย หรือลากมากอนาจาร ที่ทำให้เด็กซึมซาบเอาเรื่องเหล่านี้ไว้ในจิตใต้สำนึก และรอวันแสดงออกเมื่อมีสิ่งภายนอกมายั่วยวน  ซึ่งสิ่งที่จะแสดงออกนั่นก็คือเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การล่วงละเมิดทางเพศ  และปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ ปัญหาเรื่องโรคเอดส์ ปัญหาเรื่องการทำแท้ง เป็นต้น 

หรืออย่างเช่นภาพยนตร์หรือละครต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงการชกต่อย ทำร้ายร่างกายกัน หรือฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมทารุน ด้วยอาวุธต่างๆ ที่เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นทั้งหลาย ซึ่งนั่นจะทำให้วัยรุ่นมีนิสัยชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา  หรือโกรธง่าย อยากเด่น อยากดัง  ไม่ยอมใคร และอาฆาตพยาบาท เป็นต้น ซึ่งนี่เองที่เป็นสาเหตุให้วัยรุ่นยกพวกทำร้ายกัน

หรืออย่างเช่นละครน้ำเน่าที่เป็นเรื่องรักๆใคร่ๆของวัยรุ่น เรื่องการอิจฉากัน พูดจาเสียดสีกันอย่างที่คนธรรมดาเขาไม่พูดกัน เรื่องการแย่งชิงคนรัก เรื่องการบูชาความรัก เป็นต้น ที่ทำให้วัยรุ่นนิยมมีคนรักตั้งแต่ยังเรียนอยู่จนเสียการเรียน หรือการพูดจาเสียดสีกัน แย่งคนรักกัน ด่ากันด้วยคำหยาบคาย ทะเลาะตบตีกัน หรือทำร้ายกัน เป็นต้น แม้เด็กประถมก็เริ่มมีพฤติกรรมนี้มากขึ้นแล้ว

หรืออย่างเช่นภาพยนตร์พวกน่ากลัวเช่นเรื่องผี เรื่องอาถรรพ์ต่างๆที่ทำให้วัยรุ่นมีแต่ความโง่ไม่รู้จักใช้เหตุผลมาแก้ปัญหาชีวิต เพราะคิดว่าจะมีสิ่งลึกลับนอกเหนือเหตุผลได้ เป็นต้น

การแก้ปัญหาก็ต้องมาแก้กันที่สื่อเหล่านี้  ซึ่งก็ยาก เพราะสื่อก็ทำไปตามความต้องการของสังคม เพื่อผลประโยชน์มิฉะนั้นสื่อก็อยู่ไม่ได้ และสังคมก็ต้องการความสุขสนุกสนานจากสื่อในเรื่องกามารมณ์ เรื่องการทำร้ายกัน และเรื่องที่ลึกลักน่ากลัว เป็นต้นเหล่านี้ ดังนั้นมันจึงเป็นวัฏฏจักรที่ยากจะแทรกเข้าไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้  ซึ่งนี่เองที่ทำให้ปัญหาต่างๆของสังคมเราที่เกิดมาจาเด็กวัยรุ่นจะยังคงมีอยู่ต่อไป

การแก้ปัญหาในส่วนตัวนั้นพ่อแม่จะต้องฉลาดรู้จักว่าเด็กที่โตแล้วมีนิสัยไม่ดีนั้น จะยากมากที่จะมาเปลี่ยนนิสัยให้ดีขึ้นได้ เพราะนิสัยนั้นมันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก ดังนั้นพ่อแม่ที่มีลูกยังเล็กๆอยู่ก็ต้องรู้จักว่าจะอบรมสั่งสอนลูกอย่างไรจึงจะทำให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมได้ ถ้าปล่อยปะละเลยจนลูกโตแล้วจึงค่อยมาสอนนั้นจะทำได้ยาก เหมือภาษิตที่ว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก

ในส่วนสังคมก็ต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาให้สภาพแวดล้อมของสังคมดีขึ้น พยายามระวังอย่าให้สื่อที่ไม่ดีเข้ามาในครอบครัว ในหรือสังคม และที่สำคัญผู้ใหญ่ก็ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย อย่างเช่นพวกอบายมุขต่างๆก็ต้องละเลิก และพยายามช่วยกันนำเอาสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างสติปัญญาให้แก่เด็กและยาวชนเข้ามาในสื่อต่างๆให้มากขึ้น

ถ้าสื่อต่างๆจะมีแต่เรื่องสนุกสนานเฮฮาแต่ไร้สาระไร้ปัญญาอยู่เต็มไปหมด เราก็พอจะเดาออกว่าสังคมในปัจจุบันก็จะยังคงประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ต่อไป และในอนาคตที่สุดปัญหาที่สั่งสมเอาไว้มากๆไว้ก็จะระเบิดออกและทำให้สังคมล่มสลายได้ แม้ประเทศชาติก็จะอยู่ไม่ได้ จะต้องกลายเป็นทาสหรือเป็นเบี้ยล่างของต่างชาติที่เขามั่นคงเข้มแข็งกว่าไปในที่สุด  ซึ่งนี่เราคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติของเราเป็นแน่

ดังนั้นเราจึงควรรีบช่วยกันป้องกันมิให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น มิฉะนั้นนอกจากปัจจุบันเราจะต้องทนทุกข์กับปัญหาต่างๆเหล่านี้อยู่ต่อไปแล้ว อนาคตเราก็อาจต้องมานั่งเสียใจเพราะความโง่เขลาของเราในขณะนี้ก็ได้.

เตชปญฺโญ ภิกขุ

อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี


(ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)


*********************