เรื่อง ช่างไม่เมตตาเสียเลย

         ในประเทศจีน ในสมัยที่นิกายเซ็นกำลังรุ่งเรืองมาก ใครๆก็นิยมนับถือภิกษุในนิกายเซ็นนี้ .
         มียายแก่คนหนึ่ง เป็นอุปัฏฐากของภิกษุองค์หนึ่ง ซึ่งปฏิบัติเซ็นมาด้วยความศรัทธาอย่างยิ่งมาเป็นเวลาถึง ๒๐ ปี แก่ได้สร้างกุฏิน้อยๆที่เหมาะสมอย่างยิ่งให้ และส่งอาหารทุกวัน นับว่าภิกษุองค์นี้ไม่ลำบากในการที่จะปฏิบัติสมาธิภาวณาอะไรเลย แต่ในที่สุดล่วงมาถึง ๒๐ ปี ยายแก่เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า พระองค์นี้จะได้อะไรเป็นผลสำเร็จของการปฏิบัติบ้างไหม ที่มันจะคุ้มกันกับข้าวปลาอาหารของเราที่ส่งเสียมาถึง ๒๐ ปี.
         เพื่อให้รู้ความจริงข้อนี้ แกก็คิดหาหนทาง ในที่สุดก็พบหนทางของแกคือ แกขอร้องหญิงสาวคนหนึ่ง ที่มีรูปร่างหน้าตาอะไรๆยั่วยวนไปหมดให้ไปหาพระองค์นั้น โดยบอกว่า ให้ไปที่นั้นแล้วไปกอดพระองค์นั้น แล้วถามว่าเดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรบ้าง ผู้หญิงคนนั้นก็ทำอย่างนั้น
         พระองค์นั้นก็ตอบ ด้วยถ้อยคำเป็นกาพย์กลอน ว่า "ต้นไม้แก่ใบโกร๋นบนยอดผา ฤดูหนาวทั้งคราวระดมมา อย่ามัวหาไออุ่นแม่คุณเอ๋ย" ว่าอย่างนี้เท่านี้น แล้วไม่ว่าอะไรอีก ไม่มีอะไรที่จะพูดกันรู้เรืองอีก .
         หญิงสาวคนนั้นก็กลับมาบอกยายแก่อย่างที่ว่านั้น ยายแก่ก็ขึ้นเสียงตะเบ็งขึ้นมาว่า คิดดูทีซิ ฉันเลี้ยงไอ้หมอนั้นมาตั้ง ๒๐ ปีเต็มๆ มันไม่มีอะไรเลย แม้จะเพียงแสดงความเมตตาออกมาสักนิดหนึ้งก็ไม่มี ถึงแม้จะไม่สนองความต้องการทางกิเลสของเขา ก็ควรจะเอ่ยปากเป็นการแสดงความเมตตากรุณา หรือขอบคุณบ้าง นี้แสดงว่ามันไม่มีคุณธรรมอะไรเลย ฉะนั้นยายแก่ก็ไปที่นั่นเอาไฟเผากุฏินั้นเสีย และไม่ส่งอาหารอีกต่อไป . แล้วเรื่องนี้ก็จบ.


        คติธรรม เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า คนเรามักมีแบบแห่งความยึดมั่นเป็นของตนเอง แล้วก็คิดว่าจะให้คนอื่นเหมือนตน พอคนอื่นเขาไม่เหมือนตนก็หาว่าเขาโง่ หรือบ้า ซึ่งแม้แต่ผู้ที่สิ้นกิเลสแล้วก็ยังไม่เป็นที่พอใจของคนที่ยึดมั่น เพราะเขายึดมั่นจะให้เป็นไปตามที่ยึดถือเท่านั้น.
|NEXT|