เรื่อง เซ็นเนื้อ เซ็นกระดูก


         ท่านโพธิธรรมที่เป็นอาจารย์สอนเซ็นเมื่อครั้งที่ท่านไปสอนอยู่ที่ประเทศจีน เมื่อสอนอยู่ถึง ๙ ปี ท่านก็อยากจะกลับอินเดียว ทีนี้ไหนๆก็จะกลับทั้งทีก็อยากจะลองสอบดู ว่าบรรดาศิษย์ต่างๆที่สอนไว้นี้ ใครจะรู้อะไรกี่มากน้อย ก็เลยเรียกศิษย์มาประชุม ถามทำนองเป็นการสอบไล่ว่า "ธรรมะที่แท้จริงนั้นคืออะไร ?" ศิษย์ชั้นหัวหน้าศิษย์ที่เรียกว่ามีปัญญาขั้นเฉียบแหลม ชื่อดูโฟกุ ก็พูดขึ้นว่า "ที่อยู่เหนือการยอมรับ และอยู่เหนือการปฏิเสธนั่นแหละ คือธรรมะที่แท้จริง" คำตอบอย่างนี้มันก็ถูกมากแล้ว ถ้าผู้ใดฟังไม่เข้าใจเรื่องนี้ พึงจัดตัวเองว่าเป็นผู้ที่ยังไม่รู้ธรรมะได้เลย .
         ท่านอาจารย์ก็บอกว่า "เอ้าถูก แกได้หนังของฉันไป" นี่หมายถึงหนังที่หุ้มชั้นนอก ไม่ใช่เนื้อไม่ใช่กระดูก เสร็จแล้วคนนี้ก็นั่งลง.
         นางชีคนหนึ่งที่ชื่อ โซจิ ก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า "สิ่งที่เห็นครั้งเดียวแล้วเป็นเห็นหมด เห็นตลอดกาล นั่นแหละคือธรรมะที่แท้จริง" .
         ท่านอาจารย์ก็บอกว่า "เอ้าถูกแกได้เนื้อของฉันไป คือมันถูกกว่าคนแรก จึงได้เนื้อไป แล้วเขาก็นั่งลง. คนที่สามยืนขึ้น ตอบว่า "ที่ไม่มีอะไรเลย นั่นแหละคือธรรมะ" คือหมายถึงว่าไม่มีตัวตนนั่นเอง.
         อาจารนย์ก็บอกว่า "ถูกแกเอากระดูกฉันไป" คือลึกถึงขั้นกระดูก.
         ศิษย์อีกคนหนึ่ง เป็นศิษย์ก้นกุฏิชื่อเอก้า ยืนขึ้น หุบปากนิ่งแล้วยังเม้มลึกเข้าไป ซึ่งแสดงว่า นิ่งอย่างที่สุด เป็นการแสดงแก่อาจารย์ว่า นั่นแหละคือธรรมะ .
         อาจารย์ก็ว่า "เออ แกได้เยื่อในกระดูกของฉันไป".แล้วนิทานก็จบ.

         คติธรรมธรรมะนั้นมีความลึกหลายระดับ ตั้งแต่สามรรถพูดออกมาให้คนอื่นเข้าใจได้ แต่ก็ยังไม่ใช่ขั้นสูงสุด ธรรมะขั้นสูงสุดนั้นไม่สามารถพูดออกมาได้ด้วยภาษาสมมติของมนุษย์ ยิ่งพูดมากก็จะยิ่งผิดมาก คือทำให้คนเข้าใจไขว้เขวมากขึ้น จะต้องเห็นแจ้งด้วยจิตใจของตนเองจึงจะเป็นธรรมะจริง และมันก็พูดออกมาให้คนอื่นรู้ไม่ได้อีกนั้นเอง.
|next|